High-alert drug guides



Digoxin



ข้อบ่งใช้
รักษา Heart failure และ Supraventicular arythmias

รูปแบบยาที่มีใช้ในโรงพยาบาล
Digoxin 0.25 mg tablet, Digoxin elixir 0.05 mg/ml in 60 ml bottle และ Digoxin injection 0.5 mg/2 ml amp.

ขนาดใช้ยา
ขนาดยารับประทานในผู้ใหญ่
  • 0.125 – 0.5 mg/day ( ครึ่งเม็ดถึง 2 เม็ด ของขนาด 0.25 mg ) วันละครั้ง
ขนาดยารับประทานในเด็ก
  • 7 – 15 mcg/kg/day หากอายุมากกว่า 10 ปี ขนาดยา 3 – 5 mcg/kg/day
ขนาดยาฉีดในผู้ใหญ่
  • ขนาดเริ่มแรก 0.25 – 0.5 mg และสามารถให้ซ้ำได้ทุก 4 - 6 ชม. และขนาดยาฉีด maintenance dose ในผู้ใหญ่ 0.125 – 0.5 mg/day
ขนาดยาฉีดในเด็ก
ช่วงอายุ ขนาดยาเริ่มต้น Maintenance dose
คลอดก่อนกำหนด 15 – 25 mcg/kg 4 – 6 mcg/kg
คลอดตามกำหนด 20 – 30 mcg/kg 5 – 8 mcg/kg
1 เดือน – 2 ปี 30 – 50 mcg/kg 7.5 – 12 mcg/kg
2 ปี - 5 ปี 25 – 35 mcg/kg 6 – 9 mcg/kg
5 ปี - 10 ปี 15 – 30 mcg/kg 4 – 8 mcg/kg
มากกว่า 10 ปี 8 – 12 mcg/kg 2 – 3 mcg/kg


Monitoring
  • Therapeutic serum range ( 0.8 – 2.0 ng/ml )
  • Serum electrolyte
  • Heart rate
  • Renal function
  • Blood pressure
  • เมื่อผู้ป่วยมีอาการอ่อนเพลีย คลื่นไส้ อาเจียน ปวดศีรษะ การมองเห็นผิดปกติและใจสั่น อาจเกิดอาการพิษของยาได้


แนวทางการสั่งใช้ยา
  • ระบุชื่อยาและขนาดยาด้วยลายมือที่ชัดเจน และไม่ใช้ตัวย่อ
  • การเปลี่ยนยาจากชนิดฉีดเป็นรับประทานต้องคำนึงถึงค่า ชีวประสิทธิผล ( Bioavailability )ของยาด้วย
  • ควรวัดระดับยาที่ steady state ( 7 – 10 วัน ) โดยวัดที่ 4 ชม. หลังจากได้ยา ( ชนิดฉีด ) และ 6 ชม. หลังจากได้ยา ( ชนิดรับประทาน )
  • คงระดับของ Na+, K+, Ca 2+, Mg2+ ในซีรัมให้เป็นปกติ เพราะจะมีผลต่อการบีบตัวของหัวใจ


แนวทางการจ่ายยาและการบริหารยา
  • ก่อนจ่ายยาควรยืนยันความถูกต้องของผู้ป่วย เช่น ชื่อ-สกุล, โรค
  • ควรสังเกตชื่อยาและลักษณะเม็ดยาให้ดีทุกครั้งก่อนการจ่ายยา
  • ผู้สูงอายุและผู้ป่วยโรคไตหากจะใช้ยา ขนาดยาที่เหมาะสมจะประมาณครึ่งหนึ่งของขนาดยาปกติ
  • การให้ยาแบบ IV ในขนาดเริ่มต้น ไม่ควรเกิน 2 หลอด ถ้าหากเกิน ควรยืนยันความถูกต้องกับแพทย์ผู้สั่งใช้ยาอีกครั้ง
  • การให้ยาแบบ IV bolus จะต้องให้แบบช้าๆ นานกว่า 5 นาที
  • ยาฉีดที่ให้อาจไม่ต้องเจือจางก็ได้ แต่ถ้าเจือจางควรเจือจางด้วย SW, NSS, D5W โดยใช้สารละลายมากกว่า 4 เท่า เพื่อป้องกันการตกตะกอนและควรใช้ทันทีที่ผสม


การป้องกันความคลาดเคลื่อนทางยา
  • ยาเกิดอันตรกิริยากับยาชนิดอื่นได้ เช่น Amiodarone, Erythromycin, Verapamil เป็นต้น
  • หากใบสั่งยาระบุให้รับประทานยานี้มากกว่าวันละครั้ง ให้ยืนยันความถูกต้องอีกครั้งกับแพทย์ผู้สั่งใช้ยา
  • เมื่อมีอาการสงสัยว่าอาจเกิดจากพิษของยา ควรแจ้งแพทย์ และแนะนำให้ตรวจวัดระดับยาในเลือด





อ้างอิง :
  • Micromedex(R) Healthcare series vol.119
  • The Handbook of Parenteral Drug Administration